ระบำอัปสรา (Apsara Dance) :
เป็นการแสดงนาฏศิลป์ที่โดดเด่นของกัมพูชา ซึ่งถอดแบบการแต่งกาย และท่าร่ายรำมาจากภาพจำหลักรูปนางอัปสรที่ปราสาทนครวัด
เทศกาลน้ำ หรือ "บอน อม ตุก" (Bon Om Tuk) :
เทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของกัมพูชา จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระคุณ ของแม่น้ำที่นำความอุดมสมบูรณ์มาให้ โดยจะมีการแข่งเรือยาว แสดงพลุดอกไม้ไฟ และการแสดงขบวน เรือประดับไฟ
![]() |
ชุดประจำชาติ หญิง : สวมเสื้อมีลายลูกไม้ที่คอและแขน อาจห่มสไบทับ และนุ่งผ้าทอมือ ที่เรียกว่า ซัมปอต (Sampot) และคาดเข็มขัดทับ ชาย : สวมเสื้อคอปิด แบบราชปะแตนที่ทำจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายกับกางเกงขายาว และสวมรองเท้าหนังแบบสากล |
![]() |
อาหารประจำชาติ อาม็อก (Amok) : ทำจากเนื้อปลา ปรุงรสด้วยเครื่องแกงและกะทิ มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย บางตำรับอาจใช้เนื้อไก่หรือหอยแทน สาเหตุหนึ่งที่คนในประเทศนี้นิยมรับประทานปลา เพราะเป็นอาหารที่หาได้ง่าย เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง |
![]() |
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกลำดวน (Rumdul) |
ภาษาที่ใช้
ภาษาเขมรเป็นทางการของประเทศกัมพูชา และมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ในปัจจุบัน มีคนกัมพูชารุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเวียดนาม ภาษาไทย และภาษาจีนได้ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา
![]() |
ขนาด
กว้าง 500 กิโลเมตร ยาว 450 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 181,035 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย เส้นเขตแดนโดยรอบประเทศยาวประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยมีเส้นเขตแดนติดต่อกับประเทศไทยยาว 798 กิโลเมตร
แม่น้ำ/ทะเลสาบสำคัญ ได้แก่
1. แม่น้ำโขง ไหลจากลาวเข้าสู่ภาคเหนือของกัมพูชาแล้วไหลผ่านเข้าเขตเวียดนาม มีความยาวในเขตกัมพูชารวม 500 กิโลเมตร
2. แม่น้ำทะเลสาบ เชื่อมระหว่างแม่น้ำโขงตรงด้านหน้ากรุงพนมเปญกับบึงทะเลสาบที่บริเวณชะนุกตรู ความยาว 130 กิโลเมตร
3. แม่น้ำบาสัก (Bassac) เชื่อมต่อกับแม่น้ำทะเลสาบและแม่น้ำโขงที่หน้าพระราชวัง กรุงพนมเปญ ความยาว 80 กิโลเมตร
4. บึงทะเลสาบ (Tonle Sap) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 3,000 ตารางกิโลเมตร
สภาพภูมิอากาศ
กัมพูชามีภูมิอากาศ มรสุมเขตร้อน เป็นแบบร้อนชื้นแถบมรสุม มีฝนตกชุกที่ยาวนาน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 20 - 36 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิเฉลี่ยใน กรุงพนมเปญ 27 องศาเซลเซียส)
ฤดูฝน เริ่ม จาก เดือน พฤษภาคม - ตุลาคม
ฤดูแล้ง เริ่มจากเดือน พฤศจิกายน - เมษายน
เดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนมากและมีอุณหภูมิสูงสุดที่สุดของปี เดือนมกราคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุด และเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกที่สุด
สกุลเงิน
: เรียล ตัวย่อ KHR
อัตราแลกเปลี่ยน
: 133 เรียล = 1 บาท
(ข้อมูล พฤษภาคม ปี 2556)
: 4,000 เรียล = 1 ดอลลาร์สหรัฐ
จุดแข็ง
: มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย และอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำ ป่าไม้ และแร่ชนิดต่างๆ
: ค่าจ้างแรงงานต่ำสุดในอาเซียน (1.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
หรือประมาณวันละ 48 บาท ข้อมูลปี 55)
จุดอ่อน
: ระบบสาธารณธูปโภคพื้นฐานยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร
: ต้นทุนสาธารณูปโภค (น้ำ ไฟฟ้า และการสื่อสาร) ค่อนข้างสูง
: ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ
![]() |
![]() |
ธงชาติ |
ตราแผ่นดิน |
พรรคการเมืองสำคัญมี 3 พรรค ได้แก่ พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian Peoples Party: CPP) หัวหน้าพรรคคือ สมเด็จเจีย ซิม รองหัวหน้าพรรคคือ สมเด็จฮุน เซน พรรคฟุนซินเปค (National United Front for an Independent, Neutral, Peaceful and Cooperative Cambodia: FUNCINPEC) หัวหน้าพรรคคือ นายเชียว พุธ รัศมี และพรรคสม รังสี (Sam Rainsy Party: SRP) หัวหน้าพรรคคือ นายสม รังสี ทั้งนี้ พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian Peoples Party: CPP) สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้พรรคเดียวทำให้สมเด็จฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัย
รัฐสภาของกัมพูชาเป็นสภาคู่ ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร ( National Assembly) ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 120 คน มาจากการเลือกตั้งทั่วไปโดยทางตรงและลับ มีวาระ 5 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก 123 คน และมีสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์เป็นประธาน กับ วุฒิสภา (Senate)ที่มีสมาชิกมากสุดไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรมาจากการแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์2คนเลือกจากพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากโดยเปรียบเทียบ 2 คนและที่เหลือมาจากการเลือกตั้งโดยทางอ้อม มีวาระ 6 ปี (ปัจจุบันมีสมาชิก 61 คน ) และมีสมเด็จ เจีย ซิม เป็นประธาน
กัมพูชาแบ่งเขตการปกครองเป็น 20 จังหวัด ได้แก่
(1) กระแจะ (2) เกาะกง (3) กันดาล (4) กัมปงจาม (5) กัมปงชนัง (6) กัมปงทม (7) กัมปงสะปือ (8) กัมปอต (9) ตาแก้ว (10) รัตนคีรี (11) พระวิหาร (12) พระตะบอง (13) โพธิสัต (14) บันเตียเมียนเจย (15) เปรเวง (16) มณฑลคีรี (17) สตึงเตรง (18) สวายเรียง (19) เสียมเรียบ (20) อุดรมีชัย แต่ละจังหวัดแบ่งการปกครองเป็นอำเภอ (Srok) และตำบล (Khum) นอกจากนี้ มีเขตการปกครองพิเศษเรียกว่า กรุง (Municipalities) อีก 4 กรุง ได้แก่ กรุงพนมเปญ กรุงสีหนุวิลล์ (กัมปงโสม) กรุงแกบ และกรุงไพลิน
ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดหรือกรุง จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือกรุงกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 7 9 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามวาระของรัฐบาล ( 5 ปี ) เป็นผู้ปกครอง โดยจังหวัดจะแบ่งเขตการปกครองย่อยเป็นอำเภอ และตำบล ( เรียกเป็น สะร๊อก และ คุ้ม) ขณะที่กรุงจะแบ่งเขตการปกครองย่อยเรียกเป็น คาน และ สังกัด ทั้งนี้ หมู่บ้านหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นชุมชนย่อยลงไปจะเรียกว่า ภูมิ
เสียมเรียบ
นครวัด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 30 ปี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาปราสาทขอมด้วยกันและยังเป็น เมืองในตัวของมันเองด้วย โดยมีฐานะเป็นทั้งเมืองหลวงและศาสนสถานประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ซึ่ง สร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุ ทุกสิ่งที่ก่อสร้างขึ้นจึงล้วนแต่มีความหมายตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดูที่ ว่า ศาสนสถานคือศูนย์กลางของโลกและจักรวาล มีคูเมืองเป็นมหาสมุทร ระเบียงคตเปรียบดังเทือกเขาที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุอันเป็นที่อยู่ของทวยเทพ ส่วนปรางค์ประธานที่อยู่ชั้นบนสุดหมายถึงยอดเขา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมานครวัดจะต้องไม่พลาดการชื่นชมความอ่อนช้อยงดงามของนางอัปสรที่มีอยู่ถึง 1,635 องค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่คอยดูแลศาสนสถานแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพสลักที่อยู่รอบระเบียงคตเป็นเรื่องราวจากมหากาพย์และ คัมภีร์พระเวทย์ของศาสนาฮินดู รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้สร้าง และหนึ่งในนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับกองทัพชาวสยามด้วย
นครธม
หรือเมืองพระนครหลวง เป็นราชธานีแห่งใหม่ที่ย้ายมาจากนครยโศธรปุระตามพระราชดำริของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ประสงค์จะขยายอาณาจักรขอมให้ยิ่งใหญ่ขึ้น นครธมมีคูเมืองล้อมรอบกว้างประมาณ 80 เมตร ด้านละ 3 กิโลเมตร และมีกำแพงศิลาแดงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน กำแพงที่ล้อมรอบเปรียบได้กับภูเขาและมหาสมุทรที่โอบล้อมแผ่นดิน โดยมีโคปุระหรือซุ้มประตูทางเข้าเป็นสะพานสลักหินขนาดใหญ่ มีเทวดาและอสูรฝั่งละ 54 ตนฉุดนาคขนาดใหญ่ ส่วนซุ้มประตูทางเข้ามีภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่บนยอด ภายในประกอบด้วยปราสาทบายน ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน และปราสาทอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปี 2555 ประเทศกัมพูชาได้ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนอีกครั้ง และในฐานะประธานอาเซียน ปี 2555 นี้ ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers Meeting (AMM) Retreat) ณ เมืองเสียมราฐ ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม 2555 กัมพูชาได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาในพม่า โดยสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรกรรมคว่ำบาตรต่อพม่า หลังจากที่พม่ามีการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นประชาธิปไตยตามลำดับ รวมถึงสนับสนุนการรับประเทศติมอร์ตะวันออกเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนด้วย และเมื่อถึงวาระที่กัมพูชาจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 20 ประจำปี 2555 ณ กรุงพนมเปญ ในวันที่ 3-4 เมษายน 2555 ซึ่งเป็นปีที่มีการฉลองครบรอบ 45 ปี อาเซียน ผู้นำกัมพูชาได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการสร้างความเข้มแข็งของกลไกในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค รวมทั้งป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจโลกในอนาคต และการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างถิ่น โดยถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ที่แตกต่างหลากหลาย ตั้งแต่ประเทศที่ยากจนเช่นพม่า ไปจนถึงสิงคโปร์ที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก และเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย